ศาสนาเชน (Jainism) หรือเรียกอีกอย่างว่า ไชนะ หรือ ชินะ เป็นศาสนาเก่าแก่ของอินเดีย ที่มีอายุยาวนานและร่วมสมัยกับศาสนาพุทธ คำว่า “เชน” Jain มีความหมายว่า “ผู้ชนะ” ซึ่งหมายถึงผู้ที่สามารถเอาชนะกิเลสและวัฏสงสารได้ มีศาสดาคือพระมหาวีระ
ศาสนาเชนแบ่งออกเป็นสองนิกายหลัก คือ:
1.ทิคัมพร นักบวชนิกายนี้จะไม่มีเครื่องปกปิดร่างกายคือไม่สวมใส่เสื้อผ้าใด ๆ เลย (เฉพาะนักบวชชาย) ถือคตินุ่งลมห่มฟ้าเรียกว่าพวกชีเปลือย เนื่องจากเชื่อว่าการไม่ยึดติดในสิ่งของจะนำไปสู่การหลุดพ้น ส่วนนักบวชหญิงจะสวมใส่เสื้อผ้าสีขาว
2.เศวตามพร นักบวชนิกายนี้จะสวมใส่เสื้อผ้าสีขาว เรียกว่าชีปะขาว โดยเชื่อว่าการสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความเรียบง่าย
ทั้งสองนิกายมีหลักธรรมคำสอนที่เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดบางประการ เช่น การตีความคัมภีร์ และข้อปฏิบัติบางอย่าง
นักบวชในศาสนาเชน
ศาสนาเชนมีนักบวชทั้งชายและหญิง นักบวชชายเรียกว่า “มุนี” (Muni) ส่วนนักบวชหญิงเรียกว่า “อารยิกา” (Aryika) นักบวชในศาสนาเชนจะปฏิบัติตามหลักธรรมอย่างเคร่งครัด เช่น การถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด (ไม่เบียดเบียนชีวิต, ไม่ลักทรัพย์, ไม่ประพฤติผิดในกาม, ไม่พูดเท็จ, ไม่ดื่มสุรา), การถือพรหมจรรย์, การถือสันโดษ, การบำเพ็ญตบะ, การทำสมาธิ, การศึกษาพระธรรมวินัย, และการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนแก่ผู้อื่น
ศาสนาเชนไม่มีพระเจ้า
ศาสนาเชนไม่ได้นับถือพระเจ้า แต่เชื่อใน “ตีรถังกร” (Tirthankara) ซึ่งเป็นมนุษย์ที่บรรลุธรรมและสามารถหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ ตีรถังกรทำหน้าที่เป็นผู้นำทางและเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติธรรมให้กับผู้อื่น
หลักคำสอนสำคัญของศาสนาเชน มีดังนี้
1. อหิงสา (Ahimsa) เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของศาสนาเชน คือ ความไม่เบียดเบียนต่อสิ่งมีชีวิตทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ พืช หรือแม้กระทั่งจุลินทรีย์ ชาวเชนจึงเคร่งครัดในการดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังอย่างมาก เพื่อไม่ให้ทำร้ายสิ่งมีชีวิตใด ๆ ทั้งทางกาย วาจา และใจ ชาวเชนเชื่อว่าทุกชีวิตมีคุณค่าเท่าเทียมกัน และควรหลีกเลี่ยงการทำร้ายผู้อื่น หลักอหิงสาส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของชาวเชนในหลายด้าน เช่น การทานมังสวิรัติ การประกอบอาชีพที่ไม่เบียดเบียนชีวิต และการหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
2. สัตยะ (Satya) หลักการพูดความจริง ชาวเชนเชื่อว่าการพูดความจริงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น และเป็นหนทางสู่ความสงบสุขในจิตใจ
3. อัสเตยะ (Asteya) หลักการไม่ลักทรัพย์ ชาวเชนเชื่อว่าการลักทรัพย์เป็นการเบียดเบียนผู้อื่น และเป็นบาปที่ส่งผลเสียต่อตนเอง
4. พรหมจรรย์ (Brahmacharya) หลักการรักษาพรหมจรรย์ ชาวเชนเชื่อว่าการรักษาพรหมจรรย์เป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมความต้องการทางเพศ และเป็นหนทางสู่ความสงบสุขในจิตใจ
5. อปริครหะ (Aparigraha) หลักการไม่ยึดติดในทรัพย์สิน ชาวเชนเชื่อว่าการยึดติดในทรัพย์สินเป็นสาเหตุของความทุกข์ และเป็นอุปสรรคต่อการหลุดพ้น
นอกจากหลักพรต 5 ข้างต้นแล้วยังมีหลักคำสอนอื่นอีกเช่น
อเนกานต์วาท หลักการที่ว่าความจริงมีหลายแง่มุม และไม่มีใครสามารถเข้าใจความจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
กรรมและการเวียนว่ายตายเกิด เช่นเดียวกับศาสนาพุทธและฮินดู ศาสนาเชนเชื่อในเรื่องกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด การกระทำของเราในปัจจุบันจะส่งผลต่อชีวิตในอนาคต
การบำเพ็ญตบะ ชาวเชนเชื่อว่าการบำเพ็ญตบะเป็นหนทางหนึ่งในการชำระล้างจิตใจ และเข้าถึงความหลุดพ้น
ศาสนาเชนมีผู้นับถือส่วนใหญ่อยู่ในอินเดีย และมีชุมชนชาวเชนในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา